ปทุมธานี

วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557

วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557

วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2557

รถไฟมาถึงสุรินทร์ครั้งแรก





วันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๔ (นับอย่างปฏิทินปัจจุบัน พ.ศ. ๒๔๓๕) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงพิธี ณ ฝั่งคลองผดุงกรุงเกษมตรงท้ายวัดเทพศิรินทราวาส เพื่อทรงขุดดินเป็นพระฤกษ์ทรงตักดินเทลงในเกวียนพอสมควรแล้วโปรดให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้าวชิรุณหิศไสเกวียนเดินไปตามทาง ถึงที่ต้นทางที่จะทำทางรถไฟแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเทดินลงถมที่นั้นแล้ว คนงานทั้งหลายได้ลงมือขุดดินตามทางที่กระทรวงโยธาธิการได้ปักกรุยไว้ (สงวน อั้นคง ๒๕๒๙ : ๑๔๕)

แต่ปรากฏว่าหลังจากก่อสร้างไปได้ไม่นาน บริษัทอังกฤษผู้รับสัมปทานไม่สามารถสร้างทางรถไฟได้เสร็จตามสัญญา กรมรถไฟหลวงจึงเลิกจ้างแล้วดำเนินการก่อสร้างเองจนเปิดใช้การได้ช่วงแรกกรุงเทพฯ-อยุธยา (๗๑ กิโลเมตร) ในวันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๙ (นับอย่างปฏิทินปัจจุบัน พ.ศ. ๒๔๔๐)

ต่อจากนั้นก็มีการสร้างทางรถไฟจากอยุธยาไปชุมทางบ้านภาชี สระบุรี เข้าสู่ดงพญาเย็น ปรากฏว่าคนงานและวิศวกรตายเป็นจำนวนมากดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น การสร้างทางรถไฟดังกล่าวซึ่งกำหนดไว้ ๕ ปี แต่กว่าจะเสร็จถึงเป้าหมาย ใช้เวลาถึง ๙ ปีเต็ม รวมระยะทาง ๒๖๕ กิโลเมตร ใช้เงินก่อสร้าง ๑๗,๕๘๕,๐๐๐ บาท (เฉลี่ยกิโลเมตรละ ๖๖,๓๖๐ บาท) สูงกว่าที่บริษัทอังกฤษประมูลไว้ ๗.๖๒ ล้านบาท หรือร้อยละ ๗๖.๕ เงินที่ใช้ก่อสร้างทางรถไฟดังกล่าวถือว่าเป็นเงินจำนวนมากในยุคนั้น เพราะงบประมาณรายรับของรัฐบาลใน พ.ศ. ๒๔๓๕ มีเพียง ๑๕,๓๗๘,๑๑๔ บาท และในปีที่ทางรถไฟสร้างถึงนครราชสีมา พ.ศ. ๒๔๔๓ รัฐบาลไทยมีรายได้ทุกประเภทรวม ๓๕,๖๑๑,๓๐๖ บาท (Wright 1908 : 112) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปเปิดรถไฟที่นครราชสีมาเมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๔๓ อนึ่งความกว้างของรางรถไฟที่ใช้ในภาคอีสานและภาคอื่นๆ ใช้ขนาดมาตรฐานที่ดีที่สุดของโลกขณะนั้น คือ ๑.๔๓๕ เมตร ยกเว้นสายใต้ใช้ขนาด ๑ เมตร เพราะถูกแรงบีบจากอังกฤษจึงต้องใช้เท่ากับของอังกฤษในมลายู (สุวิทย์ ธีรศาศวัต ๒๕๒๓ : ๕๑๑-๕๑๓) 

สุวิทย์ ธีรศาศวัต ภาควิชาประวัติศาสตร์และโบราณคดี คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ศิลปวัฒนธรรม วันที่ 01 มีนาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 28 ฉบับที่ 05

วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557

กบยัดไส้


วันนี้(2 ก.ย.57) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์รายงานว่า การประกอบอาหารพื้นบ้านในแต่ละพื้นที่แต่ละจังหวัดหรือแต่ละภูมิภาคจะมีวิธี การปรุงไม่เหมือนกัน และต้องหารับประทานได้เฉพาะในพื้นที่นั้นๆ โดยเฉพาะ”อัง-แกป-บอป” หรือกบยัดไส้ อาหารย่างพื้นบ้านเขมรสุรินทร์ ที่หากินได้เฉพาะในพื้นที่จังหวัดทางอีสานใต้ โดยเฉพาะ จ.สุรินทร์ ที่พบว่าจะมีวางขายบ้างตามตลาดสด หรือตามร้านขายอาหารย่าง ข้างทาง โดยเฉพาะถนนเส้น อ.ปราสาท- อ.กาบเชิง แต่ก็ไม่พบมากนักและหากินได้ไม่ง่ายนัก เช่นกัน แต่ถ้ามีวางขายก็คงจะขายดิบขายดีแทบจะซื้อไม่ทันกินกันเลยทีเดียว เพราะอังแกปบอปมีรสชาติหอมมันอร่อย ยั่วน้ำลาย จะกินเป็นกับแกล้มก็ได้ หรือจะทานเป็นกับข้าวก็ยิ่งดี

-โดยเฉพาะที่ร้านขายของชำและอาหารย่าง ของคุณยายบุปผา คงถือมั่น อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.19 บ.ตราดระบอบพัฒนา ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ที่พบว่ายังมีการทำ อังแกปบอปขายอยู่ ถึงแม้จะไม่ได้ทำทุกวันก็ตาม โดยคุณยายบุปผาฯเล่าว่า อังแกปบอป หรือกบยัดไส้ฉายาที่ตั้งให้อีกอย่างก็คือ “ใครทำเธอท้อง” เป็นอาหารพื้นบ้านที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยวิธีการทำก็ไม่ยุ่งยากนัก นำกบมาถลกหลังออก ตัดแขนขาและหัวออกให้เหลือแต่ตัว แล้วก็เอาไส้ออกก่อนมาล้างทำความสะอาด จากนั้นก็เอา แขนขาน่องกบต่างๆไปสับหรือบดให้ละเอียดผสมกับเครื่องเคียง อาทิ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด กระเทียม หอม พริกแกง มะพร้าว ใบกระเพราะ จากนั้นก็ปรุงรสเอา แล้วเอามาคลุกกันก่อนยัดไปในท้องกบ จากนั้นก็นำไม้ไผ่มาเสียบหนีบตัวกบไว้ ก่อนจะนำไปชุบกับน้ำยาปรุงรสอีกครั้ง ก่อนจะนำขึ้นไปปิ้งย่างให้สุก เนื่องจากกบหายากและราคาแพงบางพื้นที่ก็มีการนำไก่มาสับผสมยัดไส้แทน แต่ร้านของตนเองยัดไส้ด้วยกบล้วนๆอย่างเดียว วันนี้ทำ 16 กิโลกรัม ขายไม้ละ 30 บาท ก็ขายดิบขายดีและไม่เหลือ บางคนสั่งไว้ไม่ทันย่างก็มี ส่วนตนจะทำเฉพาะกบนาเท่านั้น หากทำด้วยกบเลี้ยงเนื้อจะอ่อนแฉะปิ้งย่างจะไม่สวยและไม่อร่อยเท่ากับกบนา

-ด้าน จ.ส.อ.สนิท คงถือมั่น อายุ 70 ปี พ่อค้าขายกบยัดไส้ สามีคุณยายบุปผา กล่าวว่า ส่วนประกอบมีหลายอย่าง เวลาทำขายไม่ทัน และไม่พอขาย ที่นี่เราใช้กบธรรมชาติเท่านั้น ไม่ใช่กบเลี้ยง เพราะกบธรรมชาติเวลาย่างแล้วจะมีรสชาติที่อร่อยและกลมกล่อมกว่า โดย ขายไม้ละ 30 บาท ถือว่าถูกมากครับ 

แขน 2 ข้างบวมโตที่สุดในโลก



รายการตีสิบนำเสนอวิธีรักษาอาการดังรูปข้างล่างคือโรคบวมนำ้ คลิกดูคลิปมี2ตอน
ตอนทีา1 https://m.youtube.com/watch?v=QwqxmX0Fr0
ตอนที่2 https://m.youtube.com/watch?v=eKO7KTzl6Rg



http://tourrao.blogspot.com/2015/08/blog-post_11.html

แขน 2 ข้างบวมโตที่สุดในโลก 


พบแม่ค้าที่จังหวัดสุรินทร์ มีแขน 2 ข้างบวมโตที่สุดในโลก เนื่องจากมีความผิดปกติทางฮอร์โมนตั้งแต่เกิด ด้านสื่ออังกฤษตีข่าว กลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน
หลังจากที่สื่อมวลชนในประเทศอังกฤษ เดลีสตาร์/มิสเรอร์ นำเสนอเรื่องราวชีวิตของ น.ส.ดวงใจ สมัครสมาน ชาวบ้านกระทม จ.สุรินทร์ ผู้ที่มีแขน 2 ข้างบวมใหญ่ที่สุดในโลก ไปนำเสนอ ทำให้ป้าดวงใจ กลายบุคคลที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในขณะนี้
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ป้าดวงใจ เป็นแม่ค้าขายอาหาร ที่โรงเรียนบ้านสำโรง ต.สำโรง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ขณะที่ขายอาหาร ป้าดวงใจ จะใช้มือทั้ง 2 ข้าง ที่มีลักษณะบวมใหญ่จับสินค้า ทั้งขนม และตักน้ำแข็งใส่แก้วพลาสติก เปิดขวดน้ำอัดลม เทลงแก้วพลาสติก เพื่อขายให้กับเด็กๆ และผู้ปกครอง ที่มาร่วมเชียร์และแข่งขันกีฬา โดยมือซ้ายของป้าดวงใจนั้น นิ้วกลางกับนิ้วก้อยจะมีขนาดเล็กปกติ ป้าดวงใจจึงใช้  2 นิ้วนี้ คีบและจับสิ่งของขาย แม้กระทั่งทานข้าวก็จะใช้ 2 นิ้ว จับช้อนทานข้าว ส่วนขวดน้ำอัดลม ป้าดวงก็จะใช้มือจับ
ป้าดวงใจ กล่าวว่า อาการแขนใหญ่ มือใหญ่ เป็นมาตั้งแต่เกิด ตลอด 58 ปี ก็ไปหาหมออยู่เรื่อยๆ แต่ไม่หาย โดยรักษาตัวผ่าตัด 2 ครั้ง ที่โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นคนไข้ในสมเด็จย่าฯก็ยังรักษาไม่หาย เคยดูดไขมันมา 1 ครั้ง ตอนที่หมอจะดูดไขมัน หมอจะตีจนแขนบวมและเขียวช้ำไปหมด แล้วค่อยดูดไขมัน มันปวดมาก หมอบอกว่า เป็นอาการผิดปกติทางฮอร์โมน และเชลล์ที่แขน 2 ข้าง มัน หนักมือ และทรมานมาก เวลายืนทำงานนานๆ ก็จะปวดต้องนั่งวางมือบนโต๊ะจะหายเหนื่อย และช่วงกลางคืนอากาศเย็นๆ ก็จะมีอาการปวดมาก เวลาปวดก็จะทานยาพาราเซตามอน เคยชั่งน้ำหนักแขนมาแล้ว แขนข้างซ้ายหนัก 10 กิโลกรัม ส่วนข้างขวาหนัก 13 กิโลกรัม
ป้าดวงใจ กล่าวอีกว่า เป็นคนไข้ในสมเด็จย่าฯ มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) มาระยะหนึ่ง แต่ก็ขาดการรักษาไป เนื่องจากว่าช่วงนั้นแม่ป่วยอายุมาก แล้วต้องดูแลแม่ ทำให้ไม่ได้เดินทางไปรักษาตัว ก็เลยขาดการรักษาไป 6 ปี โดยเมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว ได้เดินทางไปเอ็กซ์เรย์แขนที่ประเทศญี่ปุ่น มีคนไทย และชาวญี่ปุ่น พาไป แพทย์ที่ญี่ปุ่นก็บอกว่า ให้รอจะรับไปดูดไขมันที่แขนออก แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อมาอีก  
ด้าน นางจันทร์แก้ว สมัครสมาน อายุ 48 ปี น้องสะใภ้ ป้าดวงใจ กล่าวว่า เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว มีผู้กำกับภาพยนตร์ชาวญี่ปุ่น กับคนไทย มาหาที่บ้าน และประสานงานกับแพทย์ที่ประเทศญี่ปุ่น จนได้เดินทางไปตรวจร่างกาย เอกซ์เรย์ ทำเอ็มอาร์ไอ ที่โรงพยาบาลประเทศญี่ปุ่น มีคณะแพทย์วินิจฉัยโรค บอกว่า ไขมันเยอะมาทับเส้นประสาททำให้ปวด แขน หมอบอกว่า รักษาได้ ไม่ต้องผ่า ไม่ต้องตัดแขน หมอจะสไลด์ไขมัน ส่วนที่เกินออก แขนจะเล็กลง แต่ให้รอก่อน หมอรักษาคนแขนใหญ่ 
มาแล้ว 6 คน ป้าดวงใจเป็นคนที่ 7 ของโลกที่แขนมือใหญ่ ก็ยังรอความหวังว่าจะได้รับการรักษาให้แขนมือเล็กลงได้ 



สลด! งูหนีน้ำท่วมฉกเด็ก 6 ขวบเมืองช้าง ดับ


เกิดเหตุการณ์สลดใจขึ้นเมื่อมีงูหนีน้ำท่วมขึ้นไปฉกเด็กวัย 6 ขวบเมืองสุรินทร์บนที่นอน ภายในบ้านพักที่ จ.สุรินทร์ โดยนางสุจิราภรณ์ พร้อมป้อง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านประทัดบุ หมู่ 5 ต.นาดี อ.เมือง จ.สุรินทร์ รับแจ้งจากลูกบ้านว่ามีเด็กชาย 6 ขวบถูกงูพิษกัด ส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์และเสียชีวิต จากนั้นญาติได้นำศพกลับจากโรงพยาบาลไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด หลังแพทย์ได้ชันสูตรศพเรียบร้อยแล้ว

โดยผู้สื่อข่าวสปริงนิวส์ได้เดินทางไปยังบ้านประทัดบุ ซึ่งเป็นบ้านผู้ปกครองของ ด.ช.ขวัญชัย ผามณี อายุ 6 ขวบ ที่ถูกงูพิษกัดเสียชีวิต ได้พบกับตา ยาย แม่ ของเด็กผู้เสียชีวิต พร้อมญาติพี่น้องที่มาร่วมงานศพและให้กำลังใจแก่ญาติผู้เสียชีวิต นอกจากนั้นนายปภพ ขอไชย ปลัดอำเภอเมืองสุรินทร์ พร้อมนายวินัย เขากล้า นายก อบต.นาดี ได้เดินทางมาให้กำลังใจแก่ครอบครัวผู้สูญเสียลูกหลานในเหตุการณ์ไม่คาดฝันครั้งนี้ด้วย

นายสมศรี แก้วสุข อายุ 63 ปี ตาของ ด.ช.ขวัญชัย ที่ถูกงูกัดเสียชีวิต เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ในช่วงค่ำตนพร้อมด้วยยาย คือนางปวน แก้วสุข อายุ 65 ปี ได้ปูที่นอนไว้ในห้องกลางบ้านแล้วนอนดูรายการโทรทัศน์ด้วยกัน 2 คนทั้งยายและหลานชาย นอนได้สักพักหลานชายได้ลุกจากที่นอนไปอาเจียน และเดินกลับมานอนในที่นอนอีก จากนั้นหลานชายก็ลุกขึ้น และชี้ไปที่ปลายเท้าว่ามีงูกัดเท้า ตนตกใจมากเมื่อทราบว่าหลานถูกงูกัดจึงวิ่งไปเอาด้ามไม้กวาดมาตีงูจนตาย พบว่าเป็นงูสามเหลี่ยม ขณะที่หลานชายมีอาการอ่อนแรง หายใจไม่ออก ได้แต่ชี้มือบอกอาการ ตนจึงพาไปสถานีอนามัยใกล้หมู่บ้าน ในเวลาประมาณ 23.00 น. เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ทันการณ์แล้วอาการเด็กแย่มาก จึงไปหาสมาชิก อบต.ในหมู่บ้านช่วยพาส่งโรงพยาบาลสุรินทร์ และเอาซากงูที่ตีตายไปด้วย เมื่อถึงโรงพยาบาลแพทย์พยายามรักษาได้ประมาณ 1 ชั่วโมง หลานก็เสียชีวิตในเวลาประมาณเที่ยงคืน แต่ไม่คาดคิดว่าหลายชายจะเสียชีวิตเร็วเช่นนี้ รู้สึกเสียใจมาก เพราะเลี้ยงเขามาตั้งแต่แรกเกิด แม่ของหลานชายไปรับจ้างทำงานที่กรุงเทพฯ ส่วนพ่อ ไปทำงานที่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งทุกคนเสียใจร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด

จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า ช่วงนี้เกิดฝนตกชุก งูมักเลื้อยเข้าบ้านและไปอยู่ในที่นอนเพื่อหาที่อบอุ่น ซึ่งงูทับสมิงคลาหรือชาวบ้านเรียกว่างูขาวดำ เป็นงูที่มีพิษร้ายแรงพบได้ตามทุ่งนาในภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคอีสาน ลำตัวเป็นปล้องขาวสลับดำแต่ท้องจะไม่เป็นปล้องอาจมีสีเหลืองหรือขาวหางจะเรียวยาวแหลม
 
ผู้สื่อข่าว : ทีมข่าวสปริงนิวส์

ปัญหาชายแดนเขมรกับตายแน่ มุ่งมาจน





วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2557